
ตอนเป็น "Rat" ปี ๑ ที่ VMI
เช้าวันศุกร์ คุณหมอเข้ามาตรวจนิทนี่ และได้แจ้งข่าวจาก ร.พ. รามา ว่า ลูกสาวเราเป็นสาวทันสมัย "ติดไข้หวัดใหญ่ 2009 มาเรียบร้อย" แต่ไม่เป็นไรเพราะนิทนี่เกือบหายแล้ว แต่ก็มีปัญหาอยู่นิดหน่อยก็คือว่า พ่อ กับ แม่ ได้รับเชื้อโรคนี้ไปแล้วอย่างแน่นอน คุณหมอจึงให้ พ่อ กับ แม่ เฝ้าระวัง ใส่ mask ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสังคม เพื่อไม่ให้เชื้อโรคไปติดใคร เพราะมันสามารถแพร่กระจายได้ก่อนวันที่ เราเป็นไข้ 1 วัน ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่า ภายใน 7 วันหลังจากที่เราได้รับเชื้อ เราจะเริ่มมีอาการวันไหน
สายๆวันเสาร์นิทนี่กลับบ้านได้แล้ว และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ (วันจันทร์ที่ 27 ก.ค.) เรา 3 คน ก็อยู่ที่บ้าน เพื่อไม่ให้สังคมลำบากเพราะเรา (ถ้าทุกๆคนมีความรับผิดชอบต่อสังคม โรคนี้คงไม่ระบาดอย่างทุกวันนี้ นิทนี่ก็คงไม่ต้องป่วยแบบนี้ด้วย)
พี่กุ๊กไก่มีบริการถึงที่ห้องเราด้วยล่ะ
นิทนี่ตอนไข้ขึ้นสูงค่ะ แต่เวลาไข้ลดก็ซนเหมือนเดิม
มิวสิควิดีโอที่นิทนี่และพ่อเต้ยชอบมาก
นิทนี่ชอบเพราะตลก พ่อเต้ยชอบเพราะเบนนี่ ลาวา เท่ห์และเต้นเก่ง
แต่แม่ฝ้ายไม่ค่อยชอบ
(เบนนี่ ลาวา ชื่อจริง ๆ คือ ปราพุ เทวะ นักร้องชาวอินเดีย ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง)
"...
It's too easy to turn a blind eye to the light
It's too easy to bow your head and pray
There are some times when you should try to find your voice
This is one voice that you must find today
Are you hoping for a miracle
as the ice caps melt away?
No use hoping for a miracle
There's a price we'll have to pay
..."
Miracle - Oceanlab
พ่อเต้ยเชื่อว่า miracle นั้นมีจริง
แต่เกิดขึ้นน้อยมาก (ไม่งั้นก็ไม่เป็น miracle หรอก)
ดังนั้น แทนที่จะรอให้มันเกิดขึ้น
เราควรทำในสิ่งที่เราทำได้
ไม่มีอะไรทดแทนความขยันและความรับผิดชอบได้ ไม่มีทางลัดในชีวิต
No use hoping for a miracle
There's a price we'll have to pay
นิทนี่ "อ่านหนังสือ" ๓ ขวบ อ.๑ ยังอ่านจริง ๆ ไม่ได้
แต่ใกล้แล้วลูก อีกไม่นาน จะได้ค้นพบสิ่งต่าง ๆ มากมายจากหนังสือ